ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ที่สนาม “รังนรก” ของ กาลาตาซาราย 0-1 ในเกม ยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 ท่ามกลางบรรยากาศอันดุเดือด และการตัดสินใจหลายอย่างที่ทำให้แฟนบอลถึงกับตั้งคำถาม
1. อาร์เน่อ สล็อต กับการตัดสินใจไม่ส่ง โม ซาล่าห์ ตัวจริง
แม้เกมนี้จะเป็นแมตช์สำคัญในถ้วยยุโรป แต่ อาร์เน่อ สล็อต กุนซือหงส์แดง เลือกพัก โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และขยับ เจเรมี ฟริมปง ไปเล่นในตำแหน่งกึ่งปีกขวาแทน พร้อมกับถอย โดมินิค โซบอสไล ลงมายืนแบ็คขวาจำเป็น
หลายคนเข้าใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้น่าจะเป็นการถนอมตัวผู้เล่นหลัก ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ต้องเปิดศึกกับ เชลซี แต่ผลที่ตามมากลับกลายเป็นการเสียรูปเกม และขาดความอันตรายจากเกมริมเส้นด้านขวา
2. จุดโทษที่เสียแบบง่ายเกินไป
จังหวะที่ โซบอสไล ใช้แขนซ้ายฟาดใส่คู่แข่งในกรอบเขตโทษ กลายเป็นจุดโทษที่ทำให้กาลาตาซารายขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นประตูชัย
น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ดาวเตะชาวฮังการีเคยเล่นแบ็คขวาได้ไม่ขัดเขิน แต่ความผิดพลาดแบบง่ายๆ ในเกมนี้ส่งผลร้ายอย่างชัดเจน
3. เกมรุกที่ขาดความเฉียบคม
ตลอดทั้งเกม ลิเวอร์พูลเล่นแบบมากจังหวะเกินไป ขาดความเร็วในการเปลี่ยนเกม และที่สำคัญคือมีการจ่ายบอลพลาดในแดนกลางบ่อยครั้ง ทำให้โดนสวนกลับหลายหน
ยังดีที่ วิคเตอร์ โอซิเมน กองหน้าตัวเก่งของเจ้าบ้านไม่เฉียบคมพอ มิฉะนั้นอาจโดนยิงมากกว่านี้ แต่ต้องชม อลิสซง เบ็คเกอร์ ที่โชว์เซฟหลายครั้ง...ก่อนจะมาเจ็บในช่วงท้ายเกม
4. โฟลเรียน เวิร์ตซ์ กับคำถามถึงค่าตัว 116 ล้านปอนด์
โฟลเรียน เวิร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวรุกดาวรุ่งที่ลิเวอร์พูลคว้าตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงลิ่ว กลับโชว์ฟอร์มได้ไม่สมราคาในเกมนี้
ตลอดทั้ง 90 นาที เขาแทบไม่มีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสสำคัญ ไม่มีการจ่ายบอลทะลุแนวรับ ไม่มีจังหวะสร้างความแตกต่างอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง (มีโอกาสยิงเพียงครั้งเดียว)
แม้ฟอร์มจะไม่ได้แย่จนรับไม่ได้ แต่เมื่อแลกกับค่าตัวระดับนี้...ย่อมต้องการเห็นอะไรที่มากกว่านี้
5. โอกาสของ อเล็กซานเดอร์ อีซัค – เอกิติเก้ โชคร้าย
อเล็กซานเดอร์ อีซัค ลงมาเป็นตัวสำรองและมีจังหวะยิงทันที แต่หลังจากนั้นก็เหมือนโดน “เอเลี่ยนลักพาตัว” หายจากเกมไปดื้อๆ
ขณะที่ อูโก้ เอกิติเก้ ที่ถูกจับไปเล่นฝั่งซ้ายแทน โคดี้ กัคโป ก็โชคร้ายได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออก และที่แย่กว่านั้นคือการเสีย อลิสซง เบ็คเกอร์ ไปอีกคนจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ทีมยิ่งสั่นคลอนหนักเข้าไปอีก
Bonus Track: VAR พรากความหวังท้ายเกม
ในช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูลเกือบได้จุดโทษตีเสมอจากจังหวะที่ผู้ตัดสินชี้จุดโทษให้ แต่ VAR เข้ามายืนยันว่าไม่มีจุดโทษ ทำเอาแฟนบอลที่เฮกันลั่นต้องเงียบกริบในพริบตา
ยังไม่ถึงเวลาตื่นตระหนก แต่ต้องรีบปรับ
แม้ความพ่ายแพ้ในเกมนี้จะยังไม่ส่งผลร้ายแรงต่อเส้นทางในยูโรป้าลีก เพราะยังเหลือเกมให้แก้ตัวอีกหลายนัด แต่แน่นอนว่าแฟนบอล “หงส์แดง” คาดหวังให้ทีมรักของตนกลับมามีมาตรฐาน และเฉียบคมกว่านี้โดยเร็ว
โดยเฉพาะในเกมสุดสัปดาห์ที่ต้องรับมือ “เชลซี” ซึ่งหากยังเล่นแบบขาดสมาธิ และไร้ไอเดียแบบนี้ อาจต้องเจอกับปัญหาใหญ่กว่าที่คิด







แสดงความคิดเห็น