ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011-2012 การแข่งขันชิงแชมป์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความดราม่าที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ
การขับเคี่ยวที่เข้มข้น
ตลอดทั้งฤดูกาล ทั้งสองทีมต่างผลัดกันขึ้นนำจ่าฝูงอย่างดุเดือด โดยมีคะแนนเท่ากันก่อนเข้าสู่นัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยแมนฯ ซิตี้มีโอกาสที่ดีกว่าเนื่องจากมีประตูได้เสียที่ดีกว่า ทำให้หากพวกเขาคว้าชัยชนะได้ ก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้ทันที
นัดตัดสินแชมป์ที่เหลือเชื่อ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ลงเล่นกับซันเดอร์แลนด์ และสามารถคว้าชัยชนะไปได้ 1-0 โดยที่นักเตะและแฟนบอลต่างรอฟังผลการแข่งขันของแมนฯ ซิตี้ ที่สนามเอทิฮัด สเตเดียม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้: ลงเล่นกับควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส (QPR) และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากอย่างยิ่ง เพราะในขณะที่เหลือเวลาไม่กี่นาที พวกเขากลับตามหลังอยู่ 1-2 ซึ่งถ้าหากสกอร์จบลงแบบนี้ แมนฯ ยูไนเต็ดก็จะคว้าแชมป์ไปครองทันที
ในห้วงเวลาที่ทุกคนกำลังสิ้นหวัง เอดิน เชโก้ ก็ยิงประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 90+2 ทำให้ความหวังกลับมาอีกครั้ง และในนาทีที่ 90+4 เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็ยิงประตูชัยที่ทำให้โลกต้องตะลึง ส่งผลให้แมนฯ ซิตี้พลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 3-2 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จด้วยประตูได้เสียที่เหนือกว่าอย่างน่าเหลือเชื่อ
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะที่สร้างความเจ็บปวดให้กับแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นชัยชนะที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนฯ ซิตี้ ซึ่งโมเมนต์นี้ทำให้วลี "AGUEROOOO!" กลายเป็นคำที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม
ทีเด็ดบอลสเต็ป 3
ผู้รักษาประตูฉายา "คิงคอง" แห่งเยอรมนี







แสดงความคิดเห็น